ที่มา และความหมายของเพลงคิดฮอด - Bodyslam feat.ศิริพร อำไพพงษ์

ผู้แต่งเพลง - อาทิวราห์ คงมาลัย (พี่ตูน Bodyslam), อ.วสุ ห้าวหาญ

ที่มาของเพลงคิดฮอด

  ที่มาของเพลงคิดฮอด เกิดจาก พี่ตูน อยากจะเอาเพลงแนวหมอลำมาผสมผสานกับแนวดนตรีของวง และพี่ตูนยังบอกอีกว่า อาจจะเป็นเพราะว่า พี่ตูนโตมากับเพลงพวกนี้ ตอนเด็ก ๆ พี่ตูนมีพี่เลี้ยงเป็นคนอีสาน และได้ฟังหมอลำลูกทุ่งจากคลื่นวิทยุ AM พี่ตูนก็เลยที่จะคิดต่อยอดว่าพอจะมีทางนำจังหวะหรือคำร้องแบบนี้มาผสมกับแนวดนตรีของวง bodyslam บ้างไหม ทางวงก็เลยทดลองมาเรื่อย ๆ  สิ่งที่น่าตื่นเต้นของหมอลำคือมีท่อนแร็ป ที่รู้สึกว่าเป็นศาสตร์ที่แม้แต่เราซึ่งเป็นคนไทยยังฟังไม่ออก พี่ตูนจึงอยากนำท่อนแร็ปนี้มาอยู่ใน bodyslam 



   แล้วนอกจากนี้เนื้อร้องของเพลงคิดฮอดยังได้ อ.วสุ ห้าวหาญ มาช่วยแต่งให้ด้วย โดย อ.วสุ บอกมาว่า พี่กบ บิ๊กแอส ซึ่งเป็นผู้ดูแลเนื้อร้องของวง bodyslam กับ อ.วสุ รู้จักกัน เป็นคนอุดรบ้านเดียวกัน พี่กบก็เลยชวน อ.วสุ มาช่วยเขียนเพลงคิดฮอดให้ ซึ่ง อ.วสุ คิดว่ามันท้าทายดีก็เลยลองๆ โซโล่ดู แล้วพี่กบกับ พี่อ๊อฟบิ๊กแอสยังให้อ.วสุช่วยดูแลเรื่องการร้องของพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ และให้ช่วยเลือกสิงห์เฒ่า ศราวุธ มาอัดเครื่องดนตรีอีสานให้อีกด้วย ซึ่งพอได้ร่วมงานกับทีมงานของวง bodyslam ก็รู้สึกดีที่ทางวงเชื่อมั่นในตัวของอ.วสุ ทางวงทุ่มเทและให้เกียรติ อ.วสุ กับพี่นางมากๆ  

   เนื้อเพลงในท่อนป๊อปร็อก พี่ตูน เป็นคนแต่ง ส่วนในท่อนที่เป็นลำเดินร็อก อ.วสุ เป็นคนแต่ง ซึ่งทำนองประยุกต์มาจาก ลายลำเดินพื้นบ้านอีสาน ส่วนเหตุผลที่เลือกพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ มาเป็นผู้ถ่ายทอดเพลงในครั้งนี้ อ.วสุบอกว่า "ตูนเป็นคนเจาะจงเลือกพี่นางมาร้อง คืออัลบั้มที่ผ่านมาของวง bodyslam จะมีนักร้องมาเป็นแขกรับเชิญ ชุดนี้ bodyslam เลือกพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ และทุกคนที่ร่วมงานก็ชมเป็นเสียงเดียวกันว่าพี่นางเป็นศิลปินที่มีสปิริตและเสียงร้องเยี่ยมยอดมาก วันที่ไปช่วยดูแลการร้องของพี่นางที่สตูดิโอชั้น 24 ตึกแกรมมี่ ได้นั่งคุยกับตูนหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องแต่งเพลง ความคิดความฝันจนถึงเรื่องการเมือง ได้เห็นนิสัยใจคอ ทัศนคติ ความคิดความอ่านที่น้องเขาแสดงออกมา ก็รู้สึกในใจว่า เขาเป็นของจริงทั้งตัวตนและตัวงานไม่ได้สร้างภาพแหกตาประชาชน ดีใจที่ได้ร่วมงานกับ bodyslam " 
  
    ทางด้านพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ เล่าให้ฟังถึงการได้มาทำงานร่วมกับพี่ตูน bodyslam ว่า ครั้งแรกไม่เชื่อว่าจะเป็นตัวเอง "ทางค่ายจีนี่ติดต่อมาให้ร้องคู่กับตูน บอดี้สแลม ก็รู้สึกตกใจ ทำไมถึงเป็นงั้น พูดจริงพูดเล่นเนี่ย พอได้รับการติดต่อครั้งที่สอง อ้าวเอาจริงหรือเนี่ย เป็นเป็นได้หรือ เพลงเป็นยังไง ร้องยังไงหนอ หลังจากนั้น อ.วสุ ก็โทรนัดติดต่อส่งเพลงมาให้แล้วก็มาซ้อมร้องเพลงกันที่บ้านดอนกลอย จ.อุดรธานี ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ฟังไกด์เพลงดนตรีก็ยิ่งตกใจร็อคชัดๆ เลย เป็นแนวของน้องตูนเลย ก็ไม่เคยคิดเลยว่าศิริพรจะร้องเพลงแนวนี้กับเขาได้ อ.วสุ ก็อธิบายว่าเขาต้องการแบบนี้ล่ะ พี่ยังคิดนะว่าแล้วแฟนเพลงน้องเขาจะชอบมั้ยก็ไม่รู้“ กับคำถามที่ว่า ก่อนหน้านั้น เคยพบหรือร่วมงานกับตูนมาก่อนหรือไม่ นักร้องเจ้าของเพลง "ปริญญาใจ" ตอบว่า "เคยเดินผ่านกันหน้าห้องน้ำที่แกรมมี่ น้องเขาสวัสดีพี่ ก็ไม่คิดว่าเขาจะรู้จักเราด้วย น้องตูนเขาน่ารัก ยังมาเล่าให้เด็กๆ ในวงฟังเลย เขาตื่นเต้นกันใหญ่ น้องๆ ที่วงอยากเจอกันมาก ส่วนเพลงของ bodyslam ก็รู้จัก เพลงเขาดังมาก เป็นวงร็อก เคยดูในทีวีที่เขาแสดงคอนเสิร์ต ไม่น่าเชื่อว่าจะได้มาร้องเพลงด้วยกัน วันที่เข้าห้องอัดเสียงเจอกัน เขามากันทั้งวงเลย มาคอยดูแลพี่ นึกว่าเขาจะหยิ่งเพราะเราเป็นนักร้องหมอลำ เขาเป็นวงร็อก แล้วก็ไม่ใช่รุ่นเดียวกันเหมือนหนังคนละม้วน เขามานั่งคุยให้กำลังใจกัน เราคนร้องก็อายเหมือนกัน ตอนอัดเสียง อ.วสุกับ ออฟ บิ๊กแอส มาคุมร้อง และสิงห์เฒ่ามาอัดพิณแคนและโหวด (ชื่อเครื่องดนตรี) ให้ค่ะ ตอนร้องเพลงนี้รู้สึกประหม่า เห็นหน้าน้องๆ ร้องไม่ออก จนผู้จัดการแซวว่าร้องไม่ง้อดนตรีเลยนะ จนต้องขอให้น้องตูนออกไปก่อน พี่ร้องไม่ได้ เพราะดนตรีมันร็อกมากค่ะอายน้องเขา" 

    เพลงคิดฮอดเป็นเพลงที่ทำยากมาก ทำเสร็จเป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้มคราม เรียกได้ว่าเกือบจะถอดใจกันเลยทีเดียว เพราะโจทย์ของเพลงนี้คือต้องเอาเพลงหมอลำมาผสมกับแนวดนตรีของวง แล้วต้องทำออกมาให้ไม่ตลก ต้องทำให้ลงตัว เชิดชูความเป็นไทยอีสานหรืออีสานพื้นบ้าน ถ้าทำออกมาฟังดูตลก ทางวงจะดูผิดทันที กลายเป็นดูถูกวัฒนธรรม ดูถูกดนตรีที่เป็นของเราเอง 

เนื้อหาของเพลงคิดฮอด

  เนื้อเพลง "คิดฮอด" ทางผู้เขียนได้หาข้อมูลมา 
1.สื่อถึงความคิดถึง ความรักที่หายไป คือพอน้ำใจคนในสังคมเหือดแห้งลง ความรักความมีน้ำใจต่อกัน ที่เคยเห็นได้บ่อยๆ ก็ค่อยๆหายไป เพลงนี้ก็เลยเป็นกระบอกเสียงส่งข่าวว่ายังมีหัวใจหลายดวงคอยความรักนั้นอยู่  

2.สื่อถึงโลกเราที่เปลี่ยนไป มีบ้านเมืองเยอะมากขึ้น แล้วก็ไปส่งผลกระทบกับธรรมชาติ และขาดการดูแลธรรมชาติ เอาแต่ตัวเองสบาย แต่ไม่สนใจธรรมชาติ เพลงก็เลยสื่อถึง "ความคิดถีงความรักที่เราเคยมีต่อโลกใบนี้"

3.อันนี้ผู้เขียนตีความเนื้อหาของเพลงด้วยตัวเอง ผู้เขียนคิดว่าเหมือนเป็นเพลง "งมงาย" (อ่านบทความเรื่องเพลงงมงายที่นี่) ในแบบของ "หมอลำ" เพราะว่าเนื้อหาจากเนื้อเพลงมีบางส่วนที่เกี่ยวกับการรอคอยเหมือนกัน 
   ในเนื้อเพลงคิดฮอด คนที่จากเราไป อาจจะเพราะมีเหตุจำเป็นอย่างเช่น ไปเรียนต่อเมืองนอก ต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด หรืออะไรก็แล้วแต่ ได้สัญญากับเราไว้ว่าจะเค้ากลับมา ก็เลยทำให้เรารู้สึกผูกมัดกับคำสัญญานั้น เราก็เลยรู้สึกคิดถึงเค้าอยู่เสมอไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน และรอคอยอย่างมีความหวังว่าเค้าจะกลับมา แต่ก็ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วเค้าจะไม่กลับมา แต่ไม่ว่ายังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไปอย่างมีความหวัง แล้วสักวันนึงชีวิตจะสวยงามเพราะความรัก

คล้ายจันทราที่อับแสง ล้านดวงดาวมืดมน
คล้ายดังคนเริ่มหมดไฟ
วันที่อาทิตย์ร้อนแรงลาจากฟ้า และไม่เคยหวนกลับ
ใครคนนี้เหมือนไม่อยากหายใจ

( แสงจากบนท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวเริ่มมืดลงเรื่อยๆ คล้ายกับคนเราที่เริ่มหมดไฟที่จะทำไรสักอย่าง  )

โลกใบเดิมที่สดใส ไม่เคยเป็นเหมือนเก่า
ฤดูกาลพลันเปลี่ยนแปร
ไม่มีอีกฝนฟ้าคราม งามดอกสวย
ไม้งามแห้งเหี่ยว ขาดความรักไร้กำลังหัวใจ

(โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิม ฤดูกาลเปลี่ยนไป ดอกไม้สวยๆ เริ่มแห้งเหี่ยว เพราะขาดความรัก ขาดการดูแล)

เป็นจั๋งได๋น้อความฮัก เป็นจั๋งได๋น้อความฮัก
ที่เคยหอมเคยกอด คิดฮอดแล้วหนาวหัวใจ
สัญญาไว้ สิมาหมั่นมาหมาย
ไหลผ่านปานขี่ฝ่าลืมฟ้าแล้วบ่น้อ

(ความรักจริงๆ เป็นยังไง  ความรักที่เรามีให้กันหายไปไหน แค่คิดก็หนาวหัวใจ คำสัญญาที่เคยให้ไว้ ปล่อยลอยผ่านไปเหมือนก้อนเมฆแล้วหรือเปล่า)

บอกให้คอยยังจำได้บ่ คำสัญญายังจำได้บ่
เหงาส่ำได๋บ่ท้อ เก็บใจถ่าบ่ถอย
คิดฮอดเด้อ ความฮักแท้ป่านนี้อยู่ไส

(บอกให้คอยยังจำได้ไหม คำสัญญายังจำได้ไหม เหงาแค่ไหนก็ไม่ท้อ เก็บใจไว้รอไม่ท้อถอย คิดถึงนะ ความรักที่แท้ป่านนี้ไปอยู่ไหน)

และยังคิดถึงเธอนะ ชีวิตที่มีเธอ
วันคืนเหล่านั้นช่างมีความหมาย
วอนท้องทะเล ขอบฟ้าแสนไกล
บอกเธอได้ไหม ยังคอย

(ยังคงคิดถึงเธอ ชีวิตที่เคยมีเธอ วันคืนที่เคยผ่านมามันช่างมีความหมาย )

คล้ายเธอลืมไปหมดแล้ว คำสัญญาวันเก่า
ว่าไม่นานคงกลับมา
ต่อให้อีกหมื่นฟ้าไกล กางกั้นไว้
รักยังเหมือนเก่า ความคิดถึงไม่เคยจางหายไป

(เรารู้สึกเหมือนกับว่าเธอลืมคำสัญญาวันเก่าที่เคยให้ไว้ไปแล้ว ว่าอีกไม่นานคงกลับมา ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนความรักก็ยังเหมือนเก่า และความคิดถึงก็ยังไม่หายไป )

เป็นจั๋งได๋แล้วน้อความฮัก เป็นจั๋งได๋แล้วน้อความฮัก
ที่เคยฝังเคยฝาก ฮอยจูบไว้ในหัวใจ
ยามเฮาไกลแล้วยังจำได้บ่
เห็นดาวยังพ่อหน้ากันอยู่บ่ห่าง

(ความรักเป็นอย่างไรบ้าง ความรักไปถึงไหนแล้ ที่เคยฝังเคยฝากรอยจูบไว้ในหัวใจ เวลาที่เราไกลกันแล้วยังจะจำได้ไหม แค่มองเห็นดาวก็เหมือนเราอยู่ไม่ห่างกัน)

ฟ้าข้างบนเปลี่ยนสีทุกวัน
สัญญามั่น คงจำขึ้นใจ
เก็บคำว่าฮักไว้ ถ่าคนไกลบ่น้อ
คิดฮอดเด้อ ความฮักแท้ป่านนี้เป็นจั๋งได๋

(ฟ้าข้างบนเปลี่ยนสีทุกวัน คำมั่นสัญญาคงจำขึ้นใจ เก็บคำว่ารักไว้รอสำหรับคนไกลหรือเปล่า คิดถึงนะ ป่าน ความรักป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง)

และยังคิดถึงเธอนะ วันนี้ไม่มีเธอ
เหตุใดโลกนี้ช่างดูโหดร้าย
สุดท้องทะเล ขอบฟ้าแสนไกล
กลับมาได้ไหม ยังคอย

(ยังคงคิดถึงเธออยู่ แต่ว่าวันนี้ไม่มีเธอแล้ว ทำไมโลกนี้มันโหดร้ายจริง อยากให้เธอกลับมาได้ไหม ฉันยังคอยเธออยู่เสมอ )

พรุ่งนี้ต้องเดินต่อไป แม้เพียงลำพัง
ชีวิตจะเป็นอย่างไร ขอเพียงความหวัง
โลกยังรอให้เธอช่วยเป็นพลัง
แต่งเติมฝันให้ชีวิตงดงามด้วยความรัก
(ไม่ว่าจะยังไง ชีวิตยังต้องเดินต่อไป  ขอแค่มีความหวัง แล้วสักวันนึงชีวิตจะงดงามเพราะความรัก)

และยังคิดถึงเธอนะ วันนี้ไม่มีเธอ
เหตุใดโลกนี้ช่างดูโหดร้าย
สุดท้องทะเล ขอบฟ้าแสนไกล
กลับมาได้ไหม ยังคอย

กลับมาได้ไหม ยังคอย
และยังคิดถึงเพียงเธอ


(ฉันยังคอยเธอ และยังคงคิดถึงเธอเสมอ...)

อ้างอิง
http://www.sarakadee.com/2011/09/15/toon-bodyslam/3/
http://www.luktungmohlum.com/t/9796
http://berbatov.exteen.com/20100816/entry